เมนูนำทาง
หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) เพลงชาติไทยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองหลังจากผ่านพ้นมรสุมชีวิตมาช่วงหนึ่งจนต้องลาออกจากราชการ มาประกอบอาชีพนักเขียน และกิจการสำนักพิพ์อยู่ช่วงหนึ่ง พันเอก นวล ปาจิณพยัคฆ์ (ยศในขณะนั้น) ก็ได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 2474 ในตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝ่ายทหารบก
ภายหลังเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 คณะราษฎร ได้ดำริให้มีเพลงชาติไทย โดยการใช้ทำนองเพลง มหาชัย ส่วนคำร้องนั้นประพันธ์โดย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)
สยามอยู่คู่ฟ้าอย่าสงสัยเพราะชาติไทยเป็นไทยไปทุกเมื่อชาวสยามนำสยามเหมือนนำเรือผ่านแก่งเกาะเพราะเพื่อชาติพ้นภัยเราร่วมใจร่วมรักสมัครหนุนวางธรรมนูญสถาปนาพาราใหม่ยกสยามยิ่งยงธำรงชัยให้คงไทยตราบสิ้นดินฟ้า
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน พันตรี หลวงนิเทศกลกิจ ร.น. (กลาง โรจนเสนา) ได้ขอให้พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) ช่วยแต่งทำนองเพลงชาติให้ จากนั้นขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) ได้ประพันธ์คำร้อง ดังนี้
แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทองไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตต์แดนสง่าสืบชาติไทยดึกดำบรรพ์บุราณลงมาร่วมรักษาเอกราษฎร์ชนชาติไทยบางสมัยศัตรูมาจู่รบไทยสมทบสวนทัพเข้าขับไล่ตะลุยเลือดหมายมุ่งผดุงผะไทสยามสมัยบุราณรอดตลอดมาอันดินสยามคือว่าเนื้อของเชื้อไทยน้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้าเอกราษฎร์คือกระดูกที่เราบูชาเราจะสามัคคีร่วมมีใจยึดอำนาจกุมสิทธิ์อิสสระเสรีใครย่ำยีเราจะไม่ละให้เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินของไทยสถาปนาสยามให้เทิดชัยไชโย
แต่กระนั้น เพลงชาติไทยเพลงนี้ก็ไม่ได้รับการรับรอง จนกระทั่ง พ.ศ. 2477 รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการเรื่องเพลงชาติ โดยในที่สุดได้เลือกทำนองเพลงชาติแบบสากลของ พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) จากนั้นมา การประกวดคัดเลือกเนื้อร้องโดยคณะกรรมการตัดสินให้ใช้เนื้อร้องของ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) ที่แต่งไว้เดิม และเนื้อร้องที่ประพันธ์โดย นายฉันท์ ขำวิไล โดยที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ประธานคณะกรรมการ ได้ขอแก้ไขถ้อยคำบางแห่งของขุนวิจิตรมาตรา เป็นดังนี้
แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทองไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตต์แดนสง่าสืบเผ่าไทยดึกดำบรรพ์โบราณลงมาร่วมรักษาสามัคคีทวีไทยบางสมัยศัตรูจู่โจมตีไทยพลีชีพร่วมรวมรุกไล่เข้าลุยเลือดหมายมุ่งผดุงผะไทสยามสมัยบุราณรอดตลอดมาอันสยามคือว่าเนื้อของเชื้อไทยน้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้าเอกราษฎร์คือเจดีย์ที่เราบูชาเราจะสามัคคีร่วมมีใจรักษาชาติประเทศเอกราชจงดีใครย่ำยีเราจะไม่ละให้เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินของไทยสถาปนาสยามให้เทอดไทย ชโย
ส่วนเนื้อร้องของนายฉันท์ ขำวิไล มีดังนี้
เหล่าเราทั้งหลายขอน้อมกายถวายชีวิตรักษาสิทธิ์อิสสระณแดนสยามที่พ่อแม่สู้ยอมม้วยด้วยพยายามปราบเสี้ยนหนามให้พินาศสืบชาติมาแม้ถึงไทยไทยด้อยจนย่อยยับยังกู้กลับคงคืนได้ชื่นหน้าควรแก่นามงามสุดอยุธยานั้นมิใช่ว่าจะขัดสนหมดคนดีเหล่าเราทั้งหลายเลือดและเนื้อเชื้อชาติไทยมิให้ใครเข้าเหยียบย่ำขยำขยี้ประคับประคองป้องสิทธิ์อิสสระเสรีเมื่อภัยมีช่วยกันจนวันตายจะสิ้นชีพไว้ชื่อให้ลือลั่นว่าไทยมั่นรักชาติไม่ขาดสายมีไมตรีดียิ่งทั้งหญิงทั้งชายสยามมิวายผู้มุ่งหมายเชิดชัยไชโย
เพลงชาติไทยเพลงนี้ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2477 โดยให้ร้องทั้งหมด 4 เที่ยว แต่คนมักจะร้อง แต่ส่วนบทร้องของขุนวิจิตรมาตราเพียงสองเที่ยวเท่านั้น เพราะถึงแม้ร้องเพียงสองเที่ยว ก็ยังยืดยาวเกินไปอยู่ดี
จนกระทั่ง พ.ศ. 2482 รัฐบาลเปลี่ยนชื่อ ประเทศจาก ประเทศสยาม เป็น ประเทศไทย จึงต้องมีการแก้ไขเพลงชาติขึ้นอีกครั้ง โดยการจัดประกวดชิงเงินรางวัล 1,000 บาท ขณะนั้นหลวงสารานุประพันธ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม ได้พบกับ พลเอก มังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรองผู้บัญชาการทหารบก ขณะเดินไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร พลเอก มังกร พรหมโยธี ได้ขอให้ หลวงสารานุประพันธ์ แต่งเพลงชาติเข้าประกวดเพื่อชื่อเสียงของกองทัพบก ท่านก็ได้ตอบตกลงแต่ไม่ขอรับเงินรางวัลหากได้รับรางวัลการประกวดครั้งนี้
นายภากร ปาจิณพยัคฆ์ บุตรชาย ได้กล่าวถึงการทำงานและการประพันธ์เพลงของหลวงสารานุประพันธ์ ไว้ว่า
พ่อทำตัวง่ายๆในการดำรงชีวิต ไม่พิถีพิถันในสถานที่และความโอ่อ่าภายในบ้านพ่อจะนั่งเขียนหนังสือได้ทุกแห่งถ้าสมองแล่น แม้แต่เนื้อร้องเพลงชาติที่พ่อแต่งให้กับกองทัพบกพ่อก็ลงมือแต่งในตอนเช้าวันหนึ่งก่อนหน้าวันประกวดไ ม่กี่วัน พ่อยังนุ่งผ้าขาวม้าจะเข้าห้องน้ำแต่สมองแล่น คว้าได้กระดาษดินสอ พ่อก็นั่งลงตรงเชิงบันไดหลังบ้านนั้นเองวางข้อศอกพาดธรณีประตูแล้วก็วาดอักขระออกมาเป็นเนื้อร้องที่เกือบจะใช้การได้เลย
เมนูนำทาง
หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) เพลงชาติไทยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองใกล้เคียง
หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์)แหล่งที่มา
WikiPedia: หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) http://www.osknetwork.com http://www.human.ru.ac.th/grad/images/pdf/2561-1/0... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2467/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2477/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2493/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2496/D/... https://www.thaisabuy.com/history/thai-national-an...